การบันทึกครั้งที่ 17  วันจันทร์ ที่ 30 พฤศจิกายน  พ.ศ.2559 เวลาเรียน08.30-11.30น.

ความรู้ที่ได้รับ

        วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเรียนการสอนรายวิชานี้ อาจารย์นัดพูดคุยเกี่ยวกับข้อสอบและโครงการ และตรวจใบปั้มคะแนนอีกด้วย

ประเมินตนเอง

          วันนวันสุดท้ายดิฉันตั้งใจมาเรียนมาฟังอาจารย์พูดคุยและให้คำปรึกษา

ประเมินเพื่อน

          เพื่อนๆทุกคนช่วยกันทำงานและช่วยเหลือกันมาตลอด

ประเมินอาจารย์ 

         อาจารย์คอยให้คำปรึกษาตลอดและค่อยช่วยเหลือนักศึกษาเรื่อยๆ

การบันทึกครั้งที่16  วันจันทร์  ที่21 พฤศจิกายน  พ.ศ.2559  เวลาเรียน 08.30-11.30น.

ไม่มีการเรียนการสอน

การบันทึกครั้งที่14  วันจันทร์ ที่ 7 พฤศจิกายน  พ.ศ.2559  เวลาเรียน08.30-11.30น.

ความรู้ที่ได้รับ

           สัปดาห์นี้นักศึกษานำใบโครงการที่ได้ทำแล้วให้อาจารย์ตรวจเช็คดูและถ้าผิดพลาดตรงไหนก็จะได้นำไปปรับปรุงในครั้งต่อไป   กลุ่มดิฉันนำใบโครงการให้อาจารย์ตรวจและให้ไปปรับปรุง  และอาจารย์อธิบายวเพิ่มตรงส่วนเนื้อหา ทำหน้าเนื้อหาให้เรียบร้อยและอีกหลายส่วนที่ต้องนำไปปรับปรุงค่ะ

กิจกรรมที่นำเสนออาจารย์มรประมาณ 8 กิจกรรมแต่อาจารย์ได้เลือกกิจกรรมที่ดีที่สุดไว้เพียง3กิจกรรมคือ 

1. นิทาน pop up
2. จานกระดาษใบหน้า
3. แกนกระดาษหมุนชิดชู่เปลี่ยนอารมณ์

ฃ

และปรึกษากันภายในกลุ่มได้แบ่งหน้าที่กัน

ประเมินตนเอง

             ช่วยเพื่อนๆคิดกิจกรรมและระดมความคิดว่าใครจะทำอะไบ้าง

ประเมินเพื่อน

           เพื่อนช่วยกันปรึกษาหารือในการทำโครงการ และช่วยกันคิดว่าจะทำกิจกรรมอะไรบ้า

ประเมินอาจารย์ 

           อาจารย์ตรวจโครงงานและให้คำปรึกาาในด้านการทำโครงการ   

การบันทึกครั้งที่15 วันจันทร์  ที่14  พฤศจิกายน  พ.ศ.2559  เวลาเรียน 08.30-11.30น.


ความรู้ที่ได้รับ

           อาจารย์ให้พูดคุยเกี่ยวกับโครงการเช่นเดิมและนำผลงานให้อาจารย์ดูเพื่อวิเคราะห์ว่าดีแล้วหรือควรแก้ตรงไหน การทำโครงการของกลุ่มดิฉันจะเป็นการทำโครงการโดยออกสำรวจตามบ้านต่างๆ โดยที่จะไปสำรวจคือ  หมู่บ้านพฤกษาวิลล์ 41/1 ต.บางกะดี อ.เมือง จ.ปทุมธานี

• จานกระดานใบหน้าอารมณ์ อาจารย์แนะนำว่าควรทำหลากหลายสี และแม่เหล็กไม่ควรติดแบบกำหนดเกินไปควรติดทั้งแผ่นเพื่อให้ผู้ปกครองหรือลูกน้อยได้ตกแต่งตามจินตนาการเอง
• นิทานpop up ไม่มีปัญหา
• แกนกระดาษเช็ดชู่ไม่มีปัญหา

ประเมินตนเอง

         ช่วยๆกันคิดและตั้งใจแก้ไขโครงการที่อาจารย์บอกให้ไปแก้ไข ตั้งใจฟังอาจารย์อธิบาย

ประเมินเพื่อน

        ทุกคนช่วยกันคิดและแก้ไขโครงการของตนเอง และให้ความร่วมมือระดมความคิดตลอด

ประเมินอาจารย์ 

        อาจารย์คอยให้คำปรึกษาในการทำโครงการ และชช่วยเหลือตลอดเวลาว่าควรไปปรับปรุงตรงไหนบ้าง

การบันทึกครั้งที่ 13  วันจันทร์  ที่31 ตุลาคม  พ.ศ.2559  เวลาเรียน 08.30-11.30น.

คามรู้ที่ได้รับ

               สัปดาห์นนี้อาจารย์ให้นักศึกษาแต่ล่ะกลุ่มเอาใบสอบถามผู้ปกครองมาพูด อุปสรรคในการสอบถามผู้ปกครอง    กลุ่มดิฉันแบบสอบถามมีชื่อเรื่อง พัฒนาอารมณ์และสังคมเด็กสำหรับผู้ปกครอง

จากนั้นอาจารย์ให้แต่ละกลุ่มรวมคะแนนใบสอบถามผู้ปกครองและ มานับคะแนน ว่าข้อไหนผู้ปกครองต้องการมากที่สุด และก็ยังนับ ชาย/หญิง อาชีพ รายได้ ว่าส่วนไหนมีมากที่สุด

กลุ่มดิฉันสิ่งที่ผู้ปกครองเลือกมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง คือ

1.ไม่หยิบของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง

2.ร่าเริง แจ่มใส อารมณ์ดี

3.มีความรับผิดชอบ

ประเมินตนเอง

       สนุกกับการนับคะแนนใบสอบถามอาจมี งง กันบ้าง แต่ก็สนุกค่ะ

ประเมินเพื่อน

       เพื่อนๆ ช่วยกันทำงานและช่วยเหลือจนเสร็จ

ประเมินอาจารย์ 

      อาจารย์ได้ให้นักศึกษานับใบสอบถามของแต่ละกลุ่มและอธิบายให้นักศึกษาฟังเสมอ

การบันทึกครั้งที่ 12  วันจันทร์  ที่24  ตุลาคม  พ.ศ.2559   เวลาเรียน 08.30-11.30น.

หยุดชดเชยวันปิยมหาราช

การบันทึกครั้งที่11  วันจันทร์  ที่17  ตุลาคม  พ.ศ.2559  เวลา 08.30-11.30น.

สัปดาห์นี้อาจารย์ให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มได้ทำแบบประเมินผู้ปกครองนอกสถานที่

การบันทึกครั้งที่10  วันจันทร์  ที่10  ตุลาคม  พ.ศ.2559  เวลาเรียน08.30-11.30น.


ความรู้ที่ได้รับ

         สัปดาห์นี้อาจารย์ได้ให้แต่ละกลุ่มนั้นช่วยกันคิดโครงการของกลุ่มตนเองมาและยอาจาย์มีตัวอย่างให้นักศึกษาได้ดู

กลุ่มของดิฉันก็ทำโครงการโดยมีชื่อโครงการดังนี้

ชื่อโครงการ พัฒนาอารมณ์และสังคมเด็กสำหรับผู้ปกครอง

โดยโครงการนี้จะมีหัวข้อหลักๆคือ

ชื่อโครงการ

-หลักการและเหตุผล

-วัตถุประสงค์

-เนื้อหา

-เป้าหมาย 

     เป้าหมายเชิงปริมาณ

     เป้าหมายเชิงคุณภาพ

-วัน เวลาและสถานที่จัดโครงการ

-รูปแบบการจัดโครงการ

-แผนการดำเนินงาน

     การเตรียมงาน (P)

     การดำเนินงาน (D)

     การนิเทศติดตามผลงาน (C)

     การสรุปและประเมินผล (A)
-งบประมาณ
     ค่าตอบแทน
     ค่าใช้สอย
     ค่าวัสดุ
-ผลที่คาดว่าจะได้รับ
-การติดตามและประเมินโครงการ
-ผู้รับผิดชอบโครงการ

จากนั้นอาจารย์ได้อธิบายเกี่ยวกับการทำแบบสอบถามผู้ปกครองให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มนำแบบสอบถามนั้นไปดัดแปลงและนำไปใช้และสุดท้ายให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอโครงการของกลุ่มตัวเอง

ประเมินตนเอง

                วันนี้ต่างตั้งใจเรียนและปรึกษาเรื่องทำโครงการ ได้ออกความคิดเห็น

ประเมินเพื่อน

               เพื่อนๆช่วยกันและร่วมมือกันคิกโครงการของกลุ่มตนเอง

ประเมินอาจารย์ 

               อาจารย์ปล่อยให้นักศึกษาปรึกษากัน ว่าจะทำโครงการยังไง จัดยังไง

การบันทึกครั้งที่ 9 วันจันทร์  ที่3  ตุลาคม  พ.ศ.2559  เวลาเรียน08.30-11.30น.


ความรู้ที่ได้รับ

               วันนี้อาจารย์ให้นักศึกษาแต่ล่ะกลุ่มนำเสนอวิจัยเกี่ยวกับผู้ปกครองมีทั้งหมด5 กลุ่ม

กลุ่มที่ 1 การพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยสำหรับผู้ปกครองจังหวัดสารคารม

กลุ่มที่ 2 การพัฒนาและประเมินการใช้โปรแกรมให้ความรู้ผู้ปกครองไทยในการส่งเสริมทักษะทางการออกเสียงภาษาอังกฤษของเด็กปฐมวัยด้วยการสอนภาษาแบบโฟนิกส์ โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูส์สามัคคี

กลุ่มที่ 3 ความสัมพันธ์ระหว่างการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองกับความรู้ของผู้ปกครองในการสร้างเสริมเด็กปฐมวัย

กลุ่มที่ 4 การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะของผู้ปกครองกับพฤติกรรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการส่งเสริมการเรียนรู้รู้ของนักเรียน โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่

กลุ่มที่ 5 ความสัมพันธ์ระหว่างการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองกับความรู้ของผู้ปกครองในการสร้างเสริมเด็กปฐมวัย

ประเมินตนเอง

          ตั้งใจฟังเพื่อนๆนำเสนอวิจัยหน้าชั้นเรียนและให้คว่มร่วมมือตลอดวลา

ประเมินเพื่อน

           เพื่อนๆดูตั้งใจเรียนและฟังเพื่อนนำเสนอ 

ประเมินอาจารย์ 

          อาจารย์ให้นำเสนอวิจัยในหน้าชั้นเรียน  แต่ละกลุ่มมีความพร้อม  และอาจารย์ค่อยบอกเวลานักศึกษานำเสนอส่งเสริมตลอดเวลา

การบันทึกครั้งที่8  วันจันทร์  ที่26 กันยายน  พ.ศ.2559 เวลาเรียน08.30-11.30น.

สอบกลางภาค

การบันทึกครั้งที่ 7  วันจันทร์ ที่ 19  กันยายน  พ.ศ.2559 เวลาเรียน08.30-11.30น.

ความรู้ที่ได้รับ

บทที่ 5 รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองในสถานศึกษา

สถานศึกษาปฐมวัยทำหน้าที่และรณรงค์เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้เห็นความสำคัญในการพัฒนาการและมีส่วนร่วมกับการศึกษาปฐมวัย โดยจะต้องพัฒนาทั้งความรู้และทักษะ เพื่อนำไปใช้กับเด็ก

*รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับชั้นเรียน*

       1.ข่าวสารประจำสัปดาห์

ให้ความรู้เกี่ยวกับกิจกรรมของเด็กที่โรงเรียนเพื่อให้ผู้ปกครองเข้าใจและร่วมกันพัฒนาเด็กไปในทิศทางเดียวกัน

-สาระการเรียนรู้

-พัฒนาการและการเรียนรู้จากกิจกรรม

-กิจกรรมครอบครัว

-เรื่องน่ารู้สำหรับผู้ปกครอง

-ข้อเสนอแนะ

      2.จดหมายข่าวและกิจกรรม

เป็นการนำเสนอความรู้ให้แก่ผู้ปกครองในขั้นเรียนให้รับรู้ถึงข่าวสารและกิจกรรมที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ในการพัฒนาเด็ก
-ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเด็ก
-กิจกรรมพัฒนาการเด็ก ข้อมูลผู้ปกครอง
      3.ป้ายนิเทศให้ความรู้ผู้ปกครอง
ส่วนใหญ่อยู่ในห้องเรียน อยู่หน้าชั้นเรียนของทุกห้อง
-ข้อมูลจากสิ่งต่างๆ
-ภาพถ่ายกิจกรรม
-ผลงาน  เกร็ดความรู้
       4.การสนทนา
เป็นรูปแบบการให้ความรู้ที่เข้าถึงและตรงมากที่สุดเป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดี

*รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับสถานศึกษา*
-ห้องสมุดผู้ปกครอง = เก็บรวบรวมข้อมูลเอกสารต่างๆ ความเคลื่อนไหวและความทันสมัย
-ป้ายนิเทศ = ไม่เน้นห้องใดห้องหนึ่ง มีข่าวสาร การประชาสัมพันธ์ทั่วๆไป
-นิทรรศการ = เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เพื่อประชาสัมพันธ์ บันเทิง ความรู้
-มุมผู้ปกครอง = พบปะสร้างสรรค์ ให้ความรู้ไม่นาน มีการแสดงผลงานของลูกเอาไว้
-การประชุม = ใช้เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารหรือให้ความรู้ผู้ปกครอง
-จุลสาร = สิ่งพิมพ์ มี4ส่วน ส่วนของบรรณาธิการ เรื่องราวของเด็กๆ บทความรู้ และเบ็ดเตล็ด
-คู่มือผู้ปกครอง = เอกสารให้ความรู้ผู้ปกครอง กฏ ระเบียบ ปรัชญา
-ระบบอินเทอร์เน็ต = การสื่อสารใช้เพื่อการเร่ียนการสอน

จากนั้นอาจารย์ก็ได้ให้นักศึกษาทุกคนนั้นสร้างใบข่าวสารประจำสัปดาห์

คำถามท้ายบท

1.รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับชั้นเรียนครูประจำชั้นควรพิจารณาในการเลือกใช้รูปแบบใดบ้างจงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง

ตอบ  1.ข่าวสารประจำสัปดาห์ เช่น แผ่นพับ ใบความรู้ ต่างๆ

         2.จดหมายข่าวและกิจกรรม เช่น ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเด็ก นิทาน  ศิลปะ

         3.ป้ายนิเทศให้ความรู้ผู้ปกครอง  ส่วนใหญ่อยู่ในห้องเรียน คือ ผลงานของเด็กทุกคนในห้องเรียน

         4.การสนทนา เป็นการให้ความรู้ผู้ปกครองที่ตรงและเข้าถึงที่สุด คือ พูดคุย แลกเปลียนความคิดเห็น

2.รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองระดับสถานศึกษามีรูปแบบใดบ้าง จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง

ตอบ  1.ห้องสมุดผู้ปกครอง เก็บรวบรวมข้อมูลเอกสารที่ทันต่อเหตุการณ์

          2.ป้ายนิเทศ ไม่เจาะห้องใดห้องหนึ่ง คือ ข่าวสาร การประชาสัมพันธ์

          3.นิทรรศการ เพื่อประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้และเพื่อความบันเทิง

          4.มุมผู้ปกครอง จะไม่มีในห้องแต่จะอยู่ส่วนใดส่วนหนึ่งของโรงเรียน เพื่อให้ผู้ปกครองที่คอยรับ-ส่ง ลูกได้ทำกิจกรรมกันตามความเหมาะสม

          5.การประชุม  เพื่อ แถลงนโยบายการจัดการศึกษา ประสานงานทำความเข้าใจ แลกเปลียนทัศนคติ

          6.จุลสาร เป็นสิ่งพิมพ์ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในทุกๆด้าน

          7.คู่มือผู้ปกครอง จัดพิมพ์เป็นรูปเล่ม ให้ผู้ปกครองได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานศึกษา

          8.ระบบอินเทอร์เน็ต เว็บโรงเรียน ใช้เพื่อการเรียนการสอน สื่อสาร

3.นักศึกษามีวิธีการหรือแนวทางแก้ปัญหาผู้ปกครองที่ไม่ให้ความร่วมมือในการเข้าร่วมโครงการหรือกิจกรรมให้ความรู้ผู้ปกครอง จงอธิบาย

ตอบ  อย่างแรกเลยคือจะต้องมีการสนทนาพูดคุยกับผู้ปกครองอย่างเป็นทางการเพื่อบอกให้ผู้ปกครองได้ทราบถึงสิ่งต่างๆ ทั้งเด็ก การให้ความรู้ และเกี่ยวกับโรงเรียนนั้น อธิบายให้ผู้ปกครองค่อยๆยอมรับและให้ความร่วมมือ

4.การจัดกิจกรรมการให้ความรู้ผู้ปกครองมีความสำคัญและจำเป็นอย่างไรจงอธิบาย

ตอบ สำคัญและจำเป็นมาก เพราะว่า เพื่อให้ความรู้ผู้ปกครองในเรื่องต่างๆ บางครั้งผู้ปกครองไม่อาจเข้าใจได้เราก็สามารถให้ความรู้ผู้ปกครองนำกลับไปใช้กับเด็กและสามารถพัฒนาได้ และทำให้ผู้ปกครอง ได้ข้อมูลการดูแลเด็ก ผลการเรียนของเด็ก พฤติกรรมของเด็ก และเมื่อรู้แล้วผู้ปกครองก็จะนำไปพัฒนาได้

5.รูปแบบการให้ความรู้ผู้ปกครองที่มีประสิทธิภาพ มีลักษณะของรูปแบบอย่างไร จงอธิบายพร้อมแสดงความคิดเห็น

ตอบ การที่ผู้ปกครองนั้นให้ความร่วมมือ คือรูปแบบที่มีประสิทธิภาพที่สุด เพราะถ้าผู้ปกครองไม่สนใจก็เท่ากับว่าสิ่งที่ครูเตรียมมาก็ศูนย์เปล่า ไร้ประโยชน์ เราะฉะนั้น การให้ความร่วมมือของผู้ปกครองคือสิ่งที่ดีที่สุด

ประเมินตนเอง

          สัปดาห์นี้ดิฉันตั้งใจเรียน แต่มีบ้างที่นอน และคุย เพราะอยู่หลังสุดเลยทำให้ไม่ค่อยตั้งใจเรียน

ประเมินเพื่อน

           เพื่อนๆก็มีตั้งใจบ้างไม่ตั้งใจบ้างแต่ส่วนมากก็ให้ความร่วมมือตลอดเวลา

ประเมินอาจารย์ 

           อาจารย์สอนเนื้อหาและอธิบาย อาจารย์สอนเข้าใจและให้คำปรึกษาหรือค่อยบอกนักศึกษาตลอดเวลา

การบันทึกครั้งที่6 วันจันทร์ ที่12  กันยายน พ.ศ.2559  เวลาเรียน 08.30-11.30น.

ไม่มีการเรียนการสอนเนื่องจากอาจารย์ติดธุระสำคัญ

การบันทึกครั้งที่5  วันจันทร์ ที่ 5 กันยายน  พ.ศ.2559  เวลาเรียน08.30-11.30น.

ความรู้ที่ได้รับ

บทที่4 โครงการการให้ความรู้ผู้ปกครองในและต่างประเทศ

โครงการ การให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในประเทศไทย

1. โครงการแม่สอนลูก
2. โครงการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในเด็กไทย
3. โครงการหนังสือเล่มแรก
4. โครงการพัฒนาเด็กโดยครอบครัว
5. โครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อเสริมสร้างความเข็มแข็งของครอบครัว "บ้านล้อมรัก"
6. โครงการพัฒนาเด็กโดยครอบครัว

โครงการ การให้ความรู้ผู้ปกครองในต่างประเทศ

1.โครงการศูนย์ส่งเสริมประสบการณ์เด็กปฐมวัยที่เรียกว่า ALEH (Early Childhood Enrichment Center)
2.โครงการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์สำหรับผู้ปกครองและเด็ก
3.โครงการการให้ความรู้พ่อแม่ผู้ปกครองในประเทศอิสราเอล

   -โครงการเสนอแนะให้แม่สอนลูก เลี้ยงลูกอย่างไรให้ถูกวิธี

4.

โครงการการให้ความรู้พ่อแม่ผู้ปกครองในประเทศสหรัฐอเมริกา

   -โครงการ เฮดสตาร์ท

   -โครงการสมาร์ท สตาร์ท

   -โครงการศูนย์ข้อมูลพ่อแม่

   -โครงการ โฮมสตาร์ท

   -โครงการ Brooklyne Early Childhood

5.

 โครงการการให้ความรู้พ่อแม่ผู้ปกครองในประเทศนิวซีแลนด์

   -โครงการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในการจัดการศึกษาของโรงเรียน

6.โครงการการให้ความรู้พ่อแม่ผู้ปกครองในประเทศออสเตรเลีย

   -โครงการ เพลย์เซ็นเตอร์

   -โครงการ"พ่อแม่คือครูคนแรก"

โครงการ บุ๊คสตาร์ทในประเทศอังกฤษ (Bookstart UK)

              เป็นโครงการแรกของโลก ที่เรียกว่า"หนังสือเล่มแรก" ก่อตั้งในประเทศอังกฤษ พ.ศ. 2535 โดยนางเวนดี้ คูลลิ่ง เป็นหนังสือสำหรับเด็กทารก โดยจัดสรรให้เด็กทารกทุกคนมีถุงบุ๊คสตาร์ท

โครงการ บุ๊คสตาร์ทในประเทศญี่ปุ่น(Bookstart Japan)

               พ.ศ.2543 ญี่ปุ่นประกาศให้เป็นปีแห่งการอ่านของเด็ก ภาษามีความสำคัญต่อการล่อเลี้ยงจิตใจเด็ก เด็กเล็กต้องการอ้อมกอดอันอบอุ่นและเสียงพูดคุยอย่าอ่อนโยน 

จากนั้นอาจารย์ได้เปิดวิดีโอ เรื่อง หนังสือเล่มแรก Book start

คำถามท้ายบท

1.ในการดำเนินโครงการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองทั้งในและต่างประเทศมีเป้าหมายร่วมกันอย่างไร

ตอบ เป้าหมายร่วมกันคือฝึกให้เด็กโตขึ้นเป็นเด็กรักการอ่าน ฝึกทักษะด้านต่างๆ พัฒนาการของลูกการเตรียมตัวเป็นพ่อแม่ที่ดีและการรักษาในด้านต่างๆ และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวอีกด้วย

2.นักศึกษามีแนวคิดอย่างไรที่จะสนับสนุนให้โครงการการให้ความรู้ผู้ปกครองประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม จงอธิบาย

ตอบ ต้องปรึกษาหารือกับหน่วยงานต่างๆให้รับรู้และร่วมมือกันประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วประเทศได้รับรู้ข่าวสารและทำตามอาจจะต้องให้ทุกๆฝ่ายร่วมมือกันทำถึงจะสำเร็จได้

3.ในฐานะที่นักศึกษาจะเป็นผู้ที่ให้ความรู้แก่พ่อแม่ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยในอนาคต จงยกตัวอย่างขององค์ความรู้หรือเรื่องที่ต้องการจะถ่ายทอดให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองเพื่อใช้ในการเลี้ยงดูเด็กมา 5 เรื่องพร้อมอธิบายและยกตัวอย่างประกอบ

ตอบ  1. กิจกรรมปั้นเด็กฉลาด การมีลูกไม่ใช่ให้เติบโตแค่ทางกาย สุขภาพใจ พัฒนาการสติปัญญาและการอยู่ได้อย่างมีความสุขในสังคมเป็นเรื่องสำคัญมาก

   ตัวอย่างประกอบ

1. สมองสองภาษา  2.หนูน้อยนักฟังเพลง  3.เล่นกับบล็อก  4.สร้างนิสัยรักการอ่าน  5.เล่นนับตัวเลข เป็นต้น

https://www.facebook.com/pg/maepankid/photos/?tab=album&album_id=535542343310356

          2. ฝึกทักษะคิดให้ลูกไวได้ลูกฉลาดหลักแหลม  พ่อแม่หลายคนลืมให้ความสำคัญกับมันคิดแทนลูก ตัดสินใจแทนจนทำให้ลูกมีโอกาสฝึกฝนการคิดต่ำ 

ตัวอย่างประกอบ

1. เก็บเกี่ยวความรู้ได้ดี     2. เข้าใจข้อมูลที่ได้รับ    3.นำข้อมูลไปประยุกต์ใช้ 

4.วิเคราะห์ข้อมูลเป็น   5. สังเคราะห์ข้อมูลใหม่    6. ประเมินข้อมูลเป็น

https://www.facebook.com/pg/maepankid/photos/?tab=album&album_id=533740223490568

          3.สอนลูกยับยั้งใจให้เป็น 3-5 ขวบ  เคยไหมอยู่ดีๆลูกที่น่ารักของคุณร้องโวยวาย เมื่อไม่ได้ดังใจ แต่เรามีวิธีดังนี้

ตัวอย่างประกอบ

 1.ใช้ทฤษฏี time out   เช่น 3 ขวบ 3 นาที พอ 5 ขวบ 5 นาที เพื่อให้ลูกสงบสติอารมณ์เพียงคนเดียว เมื่อลูกใจเย็นลงแล้วให้พาเขาออกมาจากบริเวณทำโทษได้เลยเพื่อให้เขารู้สึกว่า เขาควบคุมตัวเองได้และนี่คือรางวัลที่เขาได้จากการควบตุมตัวเอง

2. time in อยู่กับเขาในช่วงเวลาการเรียนรู้ที่จะควบคุมตัวเองให้ได้เพื่อไม่ให้เขาโดดเดี่ยว พอเย็นลงชมเขาที่ควบคุมตัวเองได้และกอดเขาบอกว่าเป็นเด็กน่ารักและบอกรักเขาเสมอ

https://www.facebook.com/pg/maepankid/photos/?tab=album&album_id=530638693800721

         4.เคล็ดลับเลี้ยงลูกให้กล้ารับผิด ความซื่อสัตย์คือสิ่งที่พ่อแม่ควรสอนให้ลูกน้อยตั้งแต่เด็ก

ตัวอย่างประกอบ

1.ปากเบาเข้าไว้ "ไม่เป็นไรให้เป็น"

2.ฟังลูกก่อน จะเอ่ยปากบ่นว่า

3.ชื่นชมต่อหน้าที่กล้ารับผิดชอบ

4.ยกตัวอย่างเป็นตัวอย่างที่ดี

https://www.facebook.com/pg/maepankid/photos/?tab=album&album_id=545390608992196

        5.ฝึกให้ลูกเอาตัวรอดได้ คือทักษะชีวิต

ตัวอย่างประกอบ

ให้ลูกรู้จักเขียนชื่อตัวเอง จำเบอร์โทรพ่อ แม่และที่อยู่ได้ ช่วยเหลือตัวเองได้โดยพ่อแม่ช่วยเหลือให้น้อยที่สุด  รู้จักเบอร์โทรฉุกเฉิน 191

https://www.facebook.com/maepankid/photos/a.450842221780369.1073741828.438724349658823/540497406148183/?type=3&theater

4.การให้ความรู้ผู้ปกครองสามารถส่งผลต่อพฤติกรรมเด็กหรือไม่อย่างไรจงอธิบาย

ตอบ ส่งผล เพราะว่า เราให้ความรู้ผู้ปกครองในรูปแบบที่ถูกต้อง แล้วผู้ปกครอง นำไปดูแลเด็กหรือพัฒนาเด็กได้ ก็จะส่งผลทำให้พฤติกรรมของเด็กดี พัฒนาการทั้ง 4 ด้าน สุขภาพ ก็ดีขึ้น เราควรให้ความรู้ที่ถูกต้องเพื่อให้ผู้ปกครองนำไปใช้ในทางที่ถูก

5.นักศึกษาจะมีวิธีในการติดตามผลการให้ความรู้ผู้ปกครองอย่างไร จงอธิบาย

ตอบ  เมื่อเราให้ความรู้ผู้ปกครองแล้ว การติดตามผลก็สำคัญ 

      1.ติดต่อผู้ปกครองอีกครั้งเพื่อดูผล

ประเมินตนเอง

         

        ตั้งใจฟังอาจารย์  มีบ้างที่ง่วงนอน และก็พยายามฟังตลอด

ประเมินเพื่อน

 

         เพื่อนๆต่างตั้งใจฟังอาจารย์ มีบ้างที่เสียงดัง

ประเมินอาจารย์

        อาจารย์สอนเข้าวจ แต่เนื้อหาอาจจะเยอะไปหน่อยเลยทำให้ง่วงนอน

การบันทึกครั้งที่4 วันจันทร์  ที่29  สิงหาคม  พ.ศ.2559  เวลาเรียน08.30-11.30น.

ความรู้ที่ได้รับ

บทที่ 3

การสื่อสารกับผู้ปกครองเด็กปฐมวัย

ความหมายของการสื่อสาร
การสื่อสาร = การส่งข่าวสารข้อมูลจากผู้ส่งสารไปยังผู้รับสาร
การติดต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูล = ข่าวสารประสบการณ์ระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารให้มีความเข้าใจตรงกัน

ความสำคัญของการสื่อสาร
1.ทำให้ได้รับรู้และเข้าใจถึงเหตุการณืที่เกิดขึ้นในสังคม
2.ทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน 2 ฝ่าย
3.สร้างมิตรภาพที่อบอุ่น
4.เกิดภาพแห่งความประทับใจ
5.พัฒนาอัดมโนทัศน์ เป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง

รูปแบบของการสื่อสาร
-อริสโตเติล (Aristotle's Model of communication)
-ลาล์สเวล (Lesswell's Model of communication)
-แชนนอนและวีเวอร์ (Shannon & Weaver's Model of communication)
-ออสกูดและชแรมม์ (C.E Osgood and Willbur Schramm's)
-เบอร์โล (Berlo's Model of communication) *เกี่ยวข้องกับปฐมวัย

องค์ประกอบของการสื่อสาร
1.ผู้ส่งข่าวสาร
2.ข้อมูลข่าวสาร
3.สื่อในช่องทางการสื่อสาร
4.ผู้รับข่าวสาร
5.ความเข้าใจและการตอบสนอง

วัตถุประสงค์ของการสื่อสาร

1.เพื่อแจ้งให้ทราบ

2.เพื่อสอนหรือให้การศึกษา

3.เพื่อสร้างความพอใจหรือให้ความบันเทิง

4.เพื่อเสนอหรือชักจูงใจ

ประเภทของการสื่อสาร

1.จำแนกตามกระบวนการหรือการไหลของข่าวสาร

2.จำแนกตามภาษาสัญลักณ์ที่แสดงออก

3.จำแนกตามจำนวนผู้สื่อสาร

 -การสื่อสารกับตนเอง

 -การสื่อสารระหว่างบุคคล

 -การสื่อสารสาธารณะ

 -การสื่อสารมวลชน

 -การสื่อสารในครอบครัว

 -การสื่อสารในโรงเรียน

 -การสื่อสารในวงสังคมทั่วไป

ธรรมชาติและพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้ปกครอง

ออเออร์บาค

-ผู้ปกครองสามารถเรียนรู้

-การมีอิสระในการเรียนรู้

พฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้ปกครอง

1.ความพร้อม

2.ความต้องการ

3.อารมณ์และการปรับตัว

4.การจูงใจ

5.การเสริมแรง

6.ทัศนคติและความสนใจ

7.ความถนัด

อุปสรรคที่สำคัญของการสื่อสาร

*7c กับการสื่อสาารที่ดี*

-Credibility ความน่าเชื่อถือ

-Content เนื้อหาสาระ

-Clearly ความชัดเจน

-Context ความเหมาะสมกับโอกาส

-Channel ช่องทางการสื่อสาร

-Continuity consistency ความต่อเนื่องและแน่นอน

-Clarity of audience ความสามารถของผู้รับสาร

วิธีการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ปกครอง

ศึกษาให้เข้าใจผู้ปกครอง เรียนรู้ความต้องการรขอเขา พูดคุยเข้าร่วมกิจกรรมกับผู้ปกครองมีท่าทางเป็นมิตรและเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองร่วมกิจกรรม

จากนั้นเป็นการเล่นเกมต่างๆที่เป็นเกมเกี่ยวกับการสื่อสารในรูแบบต่างๆ

คำถามท้ายบท

1.จงอธิบายความหมายและความสำคัญของการสื่อสารมาโดยสังเขป

ตอบ การสื่อสาร = การส่งข่าวสารข้อมูลจากผู้ส่งสารไปยังผู้รับสาร

 ความสำคัญ คือ ทำให้ได้รับรู้และเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน 2 ฝ่าย 

2.การสื่อสารมีความสำคัญกับผู้ปกครองอย่างไร

ตอบ ผู้ปกครองสามารถที่จะสื่อสารกับครูและลูกของตนได้อย่างเหมาะสม สื่อสารก็เป็นการเรียนรู้อย่างหนึ่งของผู้ปกครองที่ทำให้สามารถรับรู้สิ่งต่างๆได้

3.รูปแบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการให้ความรู้ผู้ปกครองควรเป็นรูปแบบใด จงยกตัวอย่าง

ตอบ รูปแบบการสื่อสารของเบอร์โล เพราะเป็นรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับปฐมวัย 

4. ธรรมชาติและการเรียนรู้ของผู้ปกครองควรมีลักษณะอย่างไร

ตอบ ผู้ปกครองสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง เรียนรู้ได้ดีสามารถเข้าใจซึ่งกันและกันสนใจในสิ่งที่ผู้ปกครองสามารถเรียนรู้เป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ 

5.ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนพฤติกรรมการเรียนรู้สำหรับผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองมีความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาของเด็กประกอบด้วยปัจจัยใดบ้าง

ตอบ  1.ความพร้อม         2.ความต้องการ

3.อารมณ์และการปรับตัว 4.การจูงใจ

5.การเสริมแรง              6.ทัศนคติและความสนใจ

7.ความถนัด

ประเมินตนเอง

        ตั้งใจฟังอาจารย์สอน อาจมีบ้างทีคุย และให้ความร่วมมือตลอด

ประเมินเพื่อน

       เพื่อนๆให้ความร่วมมือและช่วยเพื่อนเล่นเกม

ประเมินอาจารย์

       อาจารย์สอนสนุกและมีกิจกรรมมาให้นักศึกษาเล่นอีกด้วย

การบันทึกครั้งที่ 3 วันจันทร์  ที่22  สิงหาคม  พ.ศ.2559  เวลาเรียน 08.30-11.30น.

ไม่มีการเรียนการสอนเนื่องจากอาจารย์ติดราชการ

การบันทึกครั้งที่2  วันจันทร์ ที่15  สิงหาคม พ.ศ.2559  เวลาเรียน08.30-11.30น.


ความรู้ที่ได้รับ

หลักเบื้องต้นในการให้การศึกษาแก่ผู้ปกครองเด็กปฐมวัย
ถือเป็นนโยบายที่สำคัญที่เกี่ยวกับผู้ปกครองในปัจจุบัน เพื่อให้ผู้ปกครองได้เข้ามามีส่วนร่วมเรียนรู้และเข้าใจถึงจุดมุ่งหมายที่สำคัญของการพัฒนาเด็กทำให้ดำเนินงานทางการศึกษาทางบ้านและทางโรงเรียนเข้าไปในทางเดียวกันและเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้เกิดความรู้ความเข้าใจในกิจกรรมโรงเรียนทำให้เกิดความเข้าใจตรงกัน

1.ความหมายของการให้การศึกษาแก่ผู้ปกครอง
.Linda  Biertecker   การให้ผู้ปกครองเข้าใจรูปแบบกิจกรรมของเด็กว่ามีอะไรบ้าง
.ฉันทนา ภาคบงกช หมายถึง  การให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการอบรมเลี้ยงดูเด็กเพื่อส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน
.กุลยา  ตันติผลาชีวะ  หมายถึง การให้ความรู้เพื่อส่งเสริมศักยภาพการเลี้ยงดูเด็กให้ถูกต้อง วิธีการให้คำปรึกษาแก่ผู้ปกครองทางตรงและทางอ้อม รายบุคคลรายกลุ่ม

2.ความสำคัญของการให้การศึกษาแก่ผู้ปกครอง
.Verna การให้ความรู้ผู้ปกครอง
.Galen จะช่วยให้ผู้ปกครองได้รับความข้อมูลที่ดีในการเลี้ยงดูและช่วยให้เด็กเกิดความสำเร็จได้
.อรุณี  หรดาล
   -ช่วยให้ผู้ปกครองเข้าใจถึงผลของการกระทำของตนเองที่จะส่งผลต่อเด็ก
   -ช่วยให้ผู้ปกครองมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็ก
   -ช่วยให้ผู้ปกครองมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการจัดการศึกษา
   
3.วัตถุประสงค์ในการให้การศึกษาแก่ผู้ปกครอง
   -เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับที่โรงเรียนบ้านที่ตรงกัน
   -ให้ผู้ปกครองตระหนักถึงบทบาทของตน
   -เพื่อให้ผู้ปกครองเข้ามมามีบทบาทในการจัดการศึกษา

4.รูปแบบในการการให้การศึกษาแก่ผู้ปกครองเด็กปฐมวัย

5.แนวทางการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเด็กปฐมวัย

   5.1แนวปฏิบัติของสถานศึกษา

      -รับฟังความคิดเห็นและความรู้สึกที่ผู้ปกครอง

      -ขณะที่พูดกับผู้ปกครองเด็กควรพูดถึงสิ่งที่ดีบ้างไม่ควรพูดถุงแต่สิ่งไม่ดี

      -ควรหลีกเลียงคำศัพท์ที่เป็นทางการอธิบายให้ผู้ปกครองฟัง

ประเมินตนเอง

        ตั้งใจฟังอาจารย์สอน และให้ความร่วมมือตลอดเวลา

ประเมินเพื่อน

        เพื่อนๆต่างตั้งใจฟังอาจารย์สอนตลอดเวลามีบ้างทีคุยกัน

ประเมินอาจารย์

       อาจารย์สอนเข้าใจ และสอนสนุกมากค่ะ